ข้อคิดก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องกรองน้ำ

เพราะ 2 ใน 3 ของร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบ การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่พอเพียงจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับเทรนด์การรักสุขภาพที่มีมาอย่างต่อเนื่องทำให้นวัตกรรมอย่าง "เครื่องกรองน้ำ" ถูกคิดค้นขึ้นมา ด้วยราคา รูปแบบ และจุดขายที่หลากหลาย แล้วจะเลือกซื้อแบบไหนถึงจะดี วันนี้มีเทคนิคง่ายๆ ในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำแบบไหนดีสำหรับไว้ใช้ในบ้านมาฝาก พร้อมด้วยการคำนวนความคุ้มค่า

1. แหล่งน้ำที่นำมากรอง
น้ำในแต่ละครัวเรือนมีที่มาต่างกัน ก่อนซื้อเครื่องกรองน้ำควรพิจารณาก่อนว่าแหล่งน้ำในบ้านของเรานั้นคืออะไร น้ำประปา, น้ำบาดาล หรือน้ำฝน เพราะสารปนเปื้อนจากน้ำในแต่ละแหล่งที่มามีความแตกต่างกัน เช่น น้ำบาดาลอาจมีปริมาณสารปนเปื้อนมากกว่าน้ำประปา ดังนั้นเครื่องกรองน้ำที่ใช้จึงจำเป็นต้องมีสารกรองที่สามารถขจัดสิ่งเจือปนได้มากกว่า

2. ประเภทของเครื่องกรองน้ำ
เมื่อเปรียบเทียบจากในท้องตลาด เครื่องกรองน้ำที่เป็นที่นิยมมีอยู่ 3 ประเภทได้แก่ เครื่องกรองน้ำแบบ RO หรือ Reverse Osmosis, เครื่องกรองน้ำแบบ UV หรือ Ultra Violet และเครื่องกรองน้ำแบบ UF หรือ Ultra-filtration

3. วัสดุไส้กรองและสารกรอง
สารที่นำมาใช้และวัสดุไส้กรองคืออีกหนึ่งปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเมื่อซื้อเครื่องกรองน้ำเพราะสารที่นำมาใช้ในไส้กรองแต่ละชนิดช่วยคัดกรองสิ่งสกปรกและสารปนเปื้อนแตกต่างกัน เช่น ไส้กรองที่ทำขึ้นจากโพลีเอธีเลน (PE) และโพลีไพลีน (PP) ช่วยแยกตะกอน โคลน ทรายและอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 – 10 ไมครอน ออกจากน้ำ, ถ่านกัมมันต์ชนิดเม็ดช่วยขจัดคลอรีนที่ตกค้าง ขจัดกลิ่นและรสชาติไม่พึงประสงค์, ขจัดเชื้อราและโลหะหนักบางส่วน, ผงคาร์บอนชนิดเม็ดช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่ถูกกรองทิ้งเจริญเติบโตอยู่ในเครื่องกรอง, หินซิลเวอร์ไลท์ช่วยกำจัดแบคทีเรียและช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ไส้กรอง

4. มีมาตรฐานรับรอง
หากเครื่องกรองน้ำที่คุณเลือกมีคุณสมบัติและราคาที่ใกล้เคียงกัน สิ่งที่สามารถนำมาใช้พิจารณาในการเลือกซื้ออาจเป็นตราสัญลักษณ์จากองค์กรต่างๆ ที่รองรับมาตรฐานของเครื่องกรองน้ำนั้นๆ อาทิ ตราสัญลักษณ์ของ NFS ที่รับรองผลิตภัณฑ์ อาหาร น้ำและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตรงตามมาตรฐานสากล

5. การรับประกันเครื่องกรองน้ำ และบริการหลังการขาย
เลือกเครื่องกรองน้ำที่มีการรับประกัน และมีศูนย์บริการที่สามารถติดต่อซื้อไส้กรองได้ง่าย นอกจากนี้ยังควรมองหาแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนและซ่อมแซมอะไหล่ในการใช้งานระยะยาว

การคำนวนความคุ้มค่าจากเครื่องกรองน้ำแอมเวย์



ประสบการณ์จากผู้ใช้ เครื่องกรองน้ำ eSpring โดย Amway

หลากเสียงหลายคำบอกเล่า จากประสบการณ์ของผู้บริโภคที่ใช้เครื่องกรองน้ำ eSpring ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันถึงความสะอาดและคุณค่าสูงสุดของน้ำดื่มจาก eSpring เครื่องกรองน้ำ eSpring เครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุด



คุณวิไล หงศ์ลดารมภ์
วิศวกรคอมพิวเตอร์

น้ำสะอาดรสชาติดีต้อง eSpring "เครื่องกรองน้ำeSpringเป็นสมาชิกที่อยู่คู่บ้านเรามานานยังแนะนำให้ เพื่อนบ้านรู้จักอีกด้วยทุกวันนี้สามีและลูกๆต้องพกน้ำeSpringไปทุกวัน เพราะมั่นใจในความสะอาด รสชาติไม่เหมือนใครแต่ยังคงแร่ธาตุที่มีประโยชน์ และมีใบรับรองจากองค์กรระดับโลกอีกด้วยทุกวันนี้เวลาแขกไปใครมา ที่บ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำดื่มบ้านเราสะอาดรสชาติดีจริงๆ

เครื่องกรองน้ำ eSpring โดย Amway

เครื่องกรองน้ำ eSpring โดย Amway เครื่องกรองน้ำที่ผสานด้วยเทคโนโลยีไส้กรองคาร์บอน กัมมันต์ และหลอดอุลตร้าไวโอเล็ท (UV) สามารถกำจัด สิ่งปนเปื้อนได้มากกว่า 99% มั่นใจ น้ำใส สะอาด ปลอดภัยใช้เครื่องกรองน้ำ อีสปริง
เครื่องกรองน้ำที่มียอดขาย อันดับ 1 ของไทยและของโลก



เครื่องกรองน้ำอีสปริง

เหตุผลที่ควรเลือกใช้ eSpring

เครื่องกรองน้ำ eSpring โดย Amway เครื่องกรองน้ำที่มียอดขายอันดับ 1 ของไทยและของโลก เครื่องกรองน้ำที่ผสานด้วยเทคโนโลยีไส้กรองคาร์บอนกัมมันต์ และหลอดอุลตร้าไวโอเล็ท (UV) สามารถกำจัด สิ่งปนเปื้อนได้มากกว่า 99% มั่นใจ น้ำใส สะอาด ปลอดภัยใช้เครื่องกรองน้ำ อีสปริง มาดูกันว่าทำไมเราถึงต้องเลือกเครื่องกรองน้ำอีสปริง

10 เหตุผลที่ควรเลือกใช้ eSpring


  • เครื่องกรองน้ำระบบแรกที่ผสานเทคโนโลยีการบำบัดน้ำที่ดีที่สุดไว้ด้วยกันได้แก่ ไส้กรองคาร์บอน หลอดอุลตร้าไวโอเล็ทและจอภาพอิเล็กทรอนิกส์
  • เครื่องกรองน้ำ eSpring สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนมากถึง160 ชนิด* รวมทั้งทำลายแบคทีเรียและไวรัสที่อยู่ในน้ำได้มากกว่า 99.99%* * รับรองผลการทำสอบจากห้องปฏิบัติการ ทดสอบอิสระประเทศสหรัฐอเมริกา ตามมาตรฐาน NSF/ANSI ที่ 42, 53, 55, 401 และ U.S. EPA
  • เทคโนโลยี "สมาร์ทชิพ" ของเครื่องกรองน้ำ eSpring จะบันทึกอายุการทำงานของ ไส้กรองคาร์บอนและหลอดอุลตร้าไวโอเล็ท และจอแสดงภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วย เตือนอัตโนมัติเมื่อถึงกำหนดเปลี่ยนชุด ไส้กรองคาร์บอนและหลอดอุลตร้าไวโอเล็ท
  • ประสิทธิภาพที่ผ่านการรับรองจาก องค์กรส่งเสริมอนามัยแห่งชาติ ระหว่างประเทศ (NSF International) ซึ่งได้ทดสอบและรับรองเครื่อง กรองน้ำ eSpring ว่าสามารถ ลดสิ่งปนเปื้อนตามมาตรฐาน NSI/ANSI ที่ 42, 53, 55 และ 401
  • คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของเครื่อง กรองน้ำ eSpring คือ การปรับปรุง รสชาติ กลิ่นและความใสสะอาดของ น้ำให้ดียิ่งขึ้น
  • เครื่องกรองน้ำ eSpring ผ่านการ วิจัยและพัฒนากว่า 20 ปี โดยวิศวกร และนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจนได้ รับสิทธิบัตรทั่วโลก ทั้งที่ได้รับ อนุญาตและกำลังจดเพิ่มเติม
  • เครื่องกรองน้ำ eSpring ติดตั้งง่ายกับก๊อกน้ำในบ้าน ตอบรับความต้องการของทุกคนใน ครอบครัว ทั้งใช้ดื่มและปรุงอาหาร
  • เครื่องกรองน้ำ eSpring ช่วยให้การซ่อมบำรุงน้อยลง เพราะสามารถกรองน้ำได้ถึง 5,000 ลิตร หรือ 1 ปี
  • เครื่องกรองน้ำ eSpring ช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายกว่า เมื่อเทียบกับน้ำดื่ม บรรจุขวดและเครื่องกรองน้ำอื่นๆ อีกหลายระบบ
  • เครื่องกรองน้ำ eSpring รับประกันความพอใจ 90 วัน และ รับประกันคุณภาพถึง 3 ปี

ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องกรองน้ำเข้ากับผนัง

ในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ eSpring ท่านสามารถกระทำได้ด้วยตัวเอง หรือติดตั้งให้แก่ลูกค้าของท่านได้อย่างสะดวกและง่ายดายเพียงปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

ดู วิธีติดตั้งเครื่องกรองน้ำอีสปริง แบบละเอียดพร้อมรูปภาพประกอบ ได้ที่ www.espring.co.th
  1. ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ eSpring
    • ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ eSpring เข้ากับผนังปูนพลาสเตอร์ ใช้ไขควงหัวแฉกเสียบเข้าไปที่พุกพลาสติกทั้ง 4 ตัวในตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้บนผนังใช้ไขควงขันจนกระทั่งขอบของพุกราบไปกับผนัง
    • ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ eSpring เข้ากับผนังคอนกรีต ใช้ดอกสว่านขนาด 1/4” เจาะตามจุดที่ทำ เครื่องหมายไว้ทั้ง 4 จุดลึกประมาณ 4 ซม. แล้วใช้พุกขนาดเบอร์ 6 ใส่ลงไปในที่รูที่เจาะไว้ก่อน
    • ขั้นตอนการติดตั้ง eSpring เข้ากับผนังไม้ ใช้ดอกสว่านขนาด 1/4” เจาะตามจุดที่ทำเครื่องหมายไว้ทั้ง 4 จุดลึกประมาณ 4 ซม. แล้วใช้พุกขนาดเบอร์ 6 ใส่ลงไปในที่รูที่เจาะไว้ก่อน
  2. นำแผ่นยึดผนังมาทาบโดยให้ลูกศรขึ้นแล้วใส่น็อตชุดติดตั้งขึ้นให้แน่นทั้ง 4 ตัว
  3. นำตัวเครื่อง eSpring มาวางไว้บนแท่นวางเครื่องโดยถอดฝาครอบเครื่องและกล่องวงจรไฟฟ้าออกก่อน จัดระดับส่วนขาตั้งกับช่องให้ตรงกันแล้วจึงเลื่อนเครื่องกรองน้ำลงบนแท่นวางเครื่อง
  4. นำสายท่อนำน้ำมาต่อกับข้อต่อหักศอก 90 องศาสีขาว ที่อยู่ในชุดติดตั้งผนัง แล้วดันให้สุดจนถึงจุดที่กำหนด (ท่อใหญ่ 18 มม. ท่อเสา 18 มม.)
  5. นำข้อต่อหักศอก 90 องศาที่ต่อสายท่อนำน้ำแล้ว มาใส่ในช่องเสียบท่อน้ำแล้วดันเข้าไปในเครื่องให้สุดจนถึงจุดที่มีเครื่องหมายกำหนดอยู่ที่ตัวข้อต่อหักศอก 90 องศา แล้วจึงเก็บสายน้ำในรางสำหรับเก็บสายนำน้ำหลังจากนั้นประกอบตัวเครื่องกรองน้ำเข้ากับแท่นวางเครื่อง
  6. นำแจ็คเสียบหม้อแปลงกระแสไฟฟ้ามาเสียบเข้ากับกล่องวงจรไฟฟ้าแล้วนำมาประกอบเข้ากับตัวเครื่องและทำการจัดวางสายไฟของหม้อแปลงกระแสไฟฟ้า
  7. และนำฝาครอบเครื่องมาประกอบเข้ากับตัวเครื่อง
  8. นำตัวเครื่องพร้อมแท่นวางเครื่องไปแขวนไว้กับตัวยึดผนัง